นางสมศรี อายุ 55 ปี ชาวบ้าน ต.เขาเจียก อ.เมืองพัทลุง เข้าร้องขอความช่วยเหลือจากผู้สื่อข่าว หลังน้องสาว นางวิไลวรรณ อายุ 53 ปี ที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ เดินทางไปรักษาอัมพฤกษ์ กับพระภูมิพัด ที่สำนักสงฆ์บ้านยางยายขลุย ต.ท่าแค่ อ.เมือง จ.พัทลุง โดยจุดที่ถูกเรียกว่าสำนักสงฆ์นี้เป็นโรงเรียนเก่าเปิดรักษาชาวบ้านมากว่า 5 เดือน
โดยพระรูปดังกล่าว ทำการรักษาโดยการใช้ค้อนตอกตามลำตัว ให้ผู้ป่วยนอนย่างไฟที่ร้อนระอุ ซึ่งพระอ้างว่าความร้อนจะทำให้คลายเส้นและเส้นที่ตายจะฟื้นขึ้นมา นอนบนแคร่สูง 60 เซนติเมตร
PM 2.5 เชียงรายยังวิกฤต พุ่ง 530 มคก./ลบ.ม. กระทบท่องเที่ยว
กรมอุตุฯเตือน “พายุฤดูร้อน” ฉบับที่ 8 เช็ก 44 จว.เจอฝนถล่ม-ลูกเห็บตก
ก่อนมีการปูสังกะสี แล้วเอาถ่านไฟก่อให้ร้อน ใช้สมุนไพรปูบนแคร่ทับ การรักษาใช้เวลานานกว่า 30 นาที
พอน้องสาวเธอกลับถึงบ้าน พบว่า แผ่นหลัง ก้น ขา มีแผลพุพอง ที่เกิดจากการนอนย่างไฟ บางจุดเป็นแผลลึก นอนพักอยู่บ้าน 2 วัน จึงได้เดินทางเข้ารับรักษายังโรงพยาบาลศรีนครินทร์ เพื่อให้แพทย์ช่วยเหลือ มาตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2566 แต่อาการยังไม่ดีขึ้น ขณะที่สามีของนางวิไลวรรณ พยายามติดต่อไปทางพระที่รักษามาตลอด แต่ทางพระก็ปฎิเสธ ไม่รับโทรศัพท์ จนล่าสุดวันที่ 26 มีนาคม 2566 ลูกศิษย์พระรูปดังกล่าวได้ติดต่อกลับมา บอกว่าให้สามีมาเอาน้ำมันไปทาแล้วจะหาย แต่สามีไม่ยอมไป เนื่องจากไม่เชื่อใจ ขณะเดียวกันยังพบชาวบ้านที่รับการรักษาในลักษณะเดียวกัน เข้ารับการรักษายังโรงพยาบาลแต่ไม่กล้าบอกหมอว่า รักษากับพระคนดังกล่าว อีก 2-3 ราย
โดย นางสมศรี พี่สาวของนางวิไลวรรณ เล่าว่า น้องสาวมีฐานะทางครอบครัวค่อนข้างลำบาก มีรายได้ 100-200 บาทต่อวัน จากการรับจ้างของสามี จึงอยากวอนเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดพัทลุง เข้าตรวจสอบพระคนดังกล่าว ว่าใช้วิธีการรักษาถูกต้องตามหลักสาธารณสุขหรือไม่ และยังมีการสัมผัสตัว ผู้ป่วยเพศญิงด้วย
เยอรมนีส่งรถถังเลพเพิร์ด 18 คัน ช่วยยูเครนใช้รับมือรัสเซีย
ศิษย์เก่ากราดยิงโรงเรียนประถมในแนชวิลล์ เด็ก 9 ขวบเสียชีวิต 3 ราย คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง